บทสวด จันทปริตปาฐะ

เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ
เชตะวะเน อะนาถะปิณทิกัสสะ อาราเม ฯ   เตนะ โข ปะนะ
สะมะเยนะ จันทิมา เทวะปุตโต ราหุนา อะสุรินเทนะ คะหิโต โหติ ฯ  
อะถะโข จันทิมา เทวะปุตโต ภะคะวันตัง อะนุสสะระมาโน
ตายัง เวลายัง อิมัง คาถัง อะภาสิ

นะโม เต พุทธะวีรัตถุ วิปปะมุตโตสิ สัพพะธิ
สัมพาธะปะฏิปันโนส๎ะมิ ตัสสะ เม สะระณัง ภะวาติฯ

อะถะโข ภะคะวา จันทิมัง เทวะปุตตัง อารัพภะ
ราหุง อะสุรินทัง คาถายะ อัชฌะภาสิ
ตะถาคะตัง อะระหันตัง จันทิมา สะระณัง คะโต
ราหุ จันทัง ปะมุญจัสสุ พุทธา โลกานุกัมปะกาติฯ

อะถะโข ราหุ อะสุรินโท จันทิมัง เทวะปุตตัง มุญจิต๎ตะวา
ตะระมานะรูโป เยนะ เวปะจิตติ อะสุรินโท เตนุปะสังกะมิ
อุปสังกะมิต๎ตะวา สังวิคโค โลมะหัฏฐะชาโต เอกะมันตัง อัฏฐาสิฯ
เอกะมันตัง ฐิตัง ราหุง อะสุรินทัง เวปะจิตติ อะสุรินโท คาถา อัชฌะภาสิ

กินนุ สันตะระมาโน วะ ราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ ฯ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมะหิ โน จะ มุญเจยยะ จันทิมันติฯ

คำแปลบทสวด จันทปริตร  

เอวัมเม สุตัง  
อันข้าพเจ้า(คือพระอานนทเถระ) ได้สดับมาแล้วอย่างนี้ ฯ  

เอกัง สะมะยัง ภะคะวา  
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า

สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนะถะปิณฑิกัสสะ อาราเม  
เสด็จประทับอยู่ที่ พระเชตะวันวิหารอาราม
ของอนาถปิณฑิกเศรษฐี ใกล้เมืองสาวัตถี  

เตนะ โข ปะนะ สะมะเยนะ  
ก็โดยสมัยนั้นแล

จันทิมา เทวะปุตโต  
จันทิมเทวบุตร  

ราหุนา อะสุรินเทนะ คะหิโต โหติ  
ถูกอสุรินทราหูจับตัวไว้ ฯ

อะถะโข จันทิมา เทวะปุตโต  
ครั้งนั้นแล จันทิมเทวบุตร  

ภะคะวันตัง อะนุสสะระมาโณ  
ระลึกถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า

ตายัง เวลายัง อิมัง คาถัง อะภาสิ  
ได้กล่าวคาถานี้ในเวลานั้นว่า  

นะโม เต พุทธะวีรัตถุ  
ข้าแต่พระพุทธเจ้าผู้แกล้วกล้า
ขอความนอบน้อมจงมีแด่พระองค์  

วิปปะมุตโตสิ สัพพะธิ  
พระองค์เป็นผู้หลุดพ้นแล้วในกิเลสธรรมทั้งปวง  

สัมพาธะปะฏิปันโนสมิ  
ข้าพระองค์เผชิญฐานะอันคับขัน  

ตัสสะ เม สะระณัง ภะวาติ  
ขอพระองค์จงเป็นที่พึ่งแห่งข้าพระองค์ด้วยเถิด

อะถะโข ภะคะวา  
ในลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า

จันทิมัง เทวะปุตตัง อารัพภะ  
ทรงปรารภจันทิมเทวบุตร  

ราหุง อะสุรินทัง คาถายะ อัชฌะภาสิ  
ได้ตรัสกะอสุรินทราหูด้วยพระคาถาว่า  

ตะถาคะตัง อะระหันตัง จันทิมา สะระณัง คะโต  
จันทิมเทวบุตร ถึงตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ว่าเป็นที่พึ่ง  

ราหุ จันทัง ปะมุญจัสสุ  
ดูก่อนราหู ท่านจงปล่อย จันทิมเทวบุตรเสียเถิด

พุทธา โลกานุกัมปะกาติ  
พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นผู้อนุเคราะห์สัตว์โลก

อะถะโข ราหุ อะสุรินโท  
ลำดับนั้นแล อสุรินทราหู  

จันทิมัง เทวะปุตตัง มุญจิตวา  
ปล่อยจันทิมาเทวบุตรแล้ว

ตะระมานะรูโป  
ก็กระหืดกระหอบ  

เยนะ เวปะจิตติ อะสุรินโท เตนุปะสังกะมิ  
เข้าไปหาอสุรินทเวปจิตติถึงที่อยู่  

อุปะสังกะมิตวา  
ครั้นเข้าไปหาแล้ว  

สังวิคโค  
ก็เศร้าสลดใจ  

โลมะหัฏฐะชาโต  
เกิดขนพองสยองเกล้า  

เอกะมันตัง อัฏฐาสิ  
ได้ยืนอยู่ ณ ที่อันสมควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ  

เอกะมันตัง ฐิตัง โข ราหุง อะสุรินทัง เวปะจิตติ
อะสุรินโท คาถายะ อัชฌะภาสิ อสุรินทเวปจิตติ
 
ได้กล่าวกะอสุรินทราหู ผู้ยืนอยู่
ณ ที่อันสมควรส่วนข้างหนึ่ง ด้วยคาถาว่า  

กินนุ สันตะระมาโนวะ ราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ  
ดูก่อนราหู ทำไมหนอ ท่านจึงกระหืดกระหอบ
ปล่อยพระจันทร์เสียเล่า

สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ  
ทำไมหนอ ท่านจึงเศร้าสลดมายืนกลัวอยู่ทำไมเล่า ฯ

สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ
 
อสุรินทราหูกล่าวว่า ข้าพเจ้าถูกขับด้วยคาถาของพระพุทธเจ้า
หากข้าพเจ้าไม่พึงปล่อยจันทิมเทวบุตร ศีรษะของข้าพเจ้า
พึงแตกเป็นเจ็ดเสี่ยง มีชีวิตอยู่ก็จะไม่ได้รับความสุขเลย ฯ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗  
สังยุตตนิกาย สคาถวรรค

 



 กลับสู่หน้าหลัก