บทสวดมนต์

ธัมมปริยายะถาคา

( นำ) หันทะ  มะยัง   ธัมมะปะริยายะคาถาโย  ภะณามะ  เส ฯ

( รับ) สัพเพ   สัตตา   มะริสสันติ   มะระณันตัง   หิ   ชีวิตัง
- สัตว์ทั้งหลายทั้งสิ้นจักต้องตาย,   เพราะชีวิตนี้มีความตายเป็นที่สุดรอบ

ชะรังปิ    ปัต๎วา   มะระณัง   เอวัง   ธัมมา   หิ   ปาณิโณ
- แม้จะอยู่ได้ถึงชราก็ต้องตาย,   เพราะสัตว์ทั้งหลาย  ย่อมเป็นอย่างนี้ตามธรรมดา

ยะมะกัง    นามะรูปัญจะ   อุโภ   อัญโญญะนิสสิตา
- ก็นามและรูปคือกายกับใจ,  ย่อมอาศัยกันอยู่เป็นของคู่กัน

เอกัส๎มิง    ภิชชะมานัส๎มิง   อุโภ   ภิชชันติ    ปัจจะยาติ
- เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแตกสลาย ,  ทั้งสองฝ่ายก็สลายไปด้วยกัน

ยะถาปิ    อัญญะตะรัง   พีชัง   เขตเต   วุตตัง   วิรูหะติ
- เปรียบเหมือนพืชอย่างใดอย่างหนึ่ง, ที่หว่านลงแล้ว ในพื้นแผ่นดินย่อมงอกขึ้นได้ ,

ปะฐะวีระสัญจะ    อาคัมมะ   สิเนหัญจะ   ตะทูภะยัง
- เพราะอาศัยรสแห่งแผ่นดิน,  และเชื้อในยางแห่งพืชนั้นๆ

เอวัง    ขันธา   จะ   ธาตุโย   ฉะ   จะ   อายะตะนา   อิเม
- ขันธ์ทั้ง ๕  และธาตุทั้งหลาย, พร้อมทั้งอายตนะทั้ง ๖ นี้ก็เหมือนกัน

เหตุง    ปะฏิจจะ   สัมภูตา   เหตุภังคา   นิรุชฌะเร
- อาศัยเหตุจึงเกิดขึ้นได้, เมื่อเหตุนั้นแตกสลายก็ย่อมดับไป

ยะถา    หิ   อังคะสัมภารา  โหติ   สัทโท   ระโถ  อิติ
- เปรียบเหมือนการประกอบชิ้นส่วนของรถเข้าด้วยกัน, คำเรียกว่ารถก็มีขึ้นได้

เอวัง    ขันเธสุ   สันเตสุ   โหติ   สัตโตติ   สัมมะติ
- เมื่อขันธ์ทั้ง๕   ยังมีอยู่ก็เหมือนกัน,  คำสมมติว่าคนและสัตว์ก็มีขึ้นได้

อุโภ   ปุญญัญจะ   ปาปัญจะ   ยัง    มัจโจ   กุรุเต   อิธะ
- เมื่อผู้ที่ตายไป,  ทำบุญและบาปใดๆ ในโลกนี้แล้ว

ตัญหิ    ตัสสะ   สะกัง   โหติ   ตัญจะ   อาทายะ  คัจฉะติ
- บุญและบาปนั้นแล,   ย่อมเป็นของๆ เขาผู้นั้นโดยแท้, 
เขาย่อมได้รับบุญและบาปนั้นแน่นอน

ตัญจัสสะ    อะนุคัง   โหติ   ฉายาวะ   อะนุปายินี
- บุญและบาปนั้นย่อมติดตามเขาไป, เหมือนเงาตามตัวเขาไปฉะนั้น

สัทธายะ    สีเลนะ    จะ   โย    ปะวัฑฒะติ
- ผู้ใดเจริญด้วยศีลและมีศรัทธา

ปัญญายะ    จาเคนะ     สุเตนะ     จูภะยัง
- เป็นผู้มีปัญญา,   สดับศึกษาในการเสียสละ

โส    ตาทิโส   สัปปุริโส    วิจักขะโน
- บุคคลผู้เป็นสัตบุรุษ , เป็นผู้เฉียบแหลมเช่นนั้น

อาทียะติ    สาระมิทเธวะ   อัตตะโน
- ย่อมเป็นผู้ถือเอาประโยชน์แห่งตน ,  ในโลกนี้ไว้ได้โดยแท้

อัชเชวะ กิจจะมาตัปปัง โก ชัญญา มะระณัง สุเว
- พึงทำความเพียรเสียในวันนี้แหละ, ใครเล่าจะรู้ความตายในวันพรุ่ง

นะ หิ โน สังคะรันเตนะ มะหาเสเนนะ มัจจุนา
- เพราะว่าความผัดเพี้ยนกับมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่นั้น,
ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย

เอวัมภูเตสุเป๎ยเตสุ    สาธุ   ตัตถาชฌุเปกขะนา
- เมื่อสังขารเหล่านั้นต้องเป็นอย่างนี้แน่นอน, การวางเฉย
ในสังขารเสียได้ย่อมเป็นการดี,

อะปิ     เตสัง   นิโรธายะ   ปะฏิปัตต๎ยาติสาธุกา
- อนึ่ง การปฏิบัติเพื่อดับสังขารเสียได้ ,  ยิ่งเป็นการดี

สัพพัง     สัมปาทะนียัญหิ    อัปปะมาเทนะ   สัพพะทาติ
- กิจทั้งสิ้นนี้จะพึงบำเพ็ญให้บริบูรณ์ได้, ด้วยความไม่ประมาททุกเมื่อเท่านั้นแล,  ดังนี้


 กลับสู่หน้าหลัก