|
กลอนนางมัทรีเดินดง |
| โอหนอมาแสนยาก |
มาลำบากยากแก่ใจ |
| มัทรีมาร้องไห้ |
ถึงแก่นไท้ลูกแก้วตา |
| โอยๆ ร้องเรียกหา |
สองปุตตาในพนา |
| ทั่วแคว้นแดนภูผา |
ร้องเรียกหาสองบังอร |
| มาเถิดสองอ่อนน้อย |
เรียกจ้อยๆ ไม่หยุดหย่อน |
| วันนี้ผิดแต่ก่อน |
ลูกอุทรไม่เห็นมา |
| กัณหาและชาลี |
มาหนีแม่สุดปัญญา |
| แต่ก่อนพอแม่มา |
วิ่งมาหาได้ชวนชม |
| ความทุกข์ทรมาน |
พาสังขารสั่นระทม |
| วันนี้ไม่ได้ชม |
สองสนมอยู่แห่งใด |
| ร้องเรียกทั้งเหลียวมอง |
และสอดส่องสุดหัวใจ |
| จ้อยๆ อยู่กลางไพร |
สะอื้นไห้ทั้งโสกา |
| ตกตมแม่ลงงม |
ไม้ทับถมแม่ค้นหา |
| โธ่เอ๋ยอนิจจา |
หาลูกรักทั้งสองศรี |
| ใจแม่จะขาดแล้ว |
โอลูกแก้วดวงชีวี |
| เข้าทูลพระภูมี |
ผู้ทรงศรีพระยาเวส |
| ทานแล้วลูกแก้วตา |
ให้ตาพราหณ์ได้สมเจตน์ |
| มัทรีทนเทวษ (อ่านว่า ทะเวด) |
เวทนาอย่างหนักหนา |
| ล้มลงสลบไป |
สามีได้ทานปุตตา |
| มัทรีใจขาดแล้ว |
น้ำเต้าแก้วมาโสดสรง |
| นางก็ฟื้นขึ้นมา |
โมทนากับพระองค์ |
| หวังรับอานิสงส์ |
กับพระองค์ผู้ทรงธรรม |
|
หมายเหตุ เทวษ [ทะเวด] น. การครํ่าครวญ ความลําบาก
|