|   สัมปชัญญบรรพ  (นำ) หันทะ มะยัง สัมปะชัญญะปัพพะปาฐัง ภะณามะ เส ฯ  (รับ) ปุนะ จะปะรัง ภิกขะเว ภิกขุ- ภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง
  อะภิกกันเต ปะฏิกกันเต สัมปะชานะการี โหติ- ภิกษุย่อมทำความรู้สึกตัว ในการก้าวไป ถอยกลับ
  อาโลกิเต วิโลกิเต สัมปะชานะการี โหติ- ทำความรู้สึกตัว ในการแลดู การเหลียว
  สัมมิญชิเต ปะสาริเต สัมปะชานะการี โหติ- ทำความรู้สึกตัว ในการคู้เข้า เหยียดออก
  สังฆาฏิปัตตะจีวะระธาระเณ สัมปะชานะการี โหติ- ทำความรู้สึกตัว ในการทรงสังฆาฏิ บาตร จีวร
  อะสิเต ปิเต ขายิเต สายิเต สัมปะชานะการี โหติ- ทำความรู้สึกตัว ในการกิน ดื่ม เคี้ยว ลิ้มรส
  อุจจาระปัสสาวะกัมเม สัมปะชานะการี โหติ- ทำความรู้สึกตัว ในการถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ
  คะเต ฐิเต นิสินเน สุตเต ชาคะริเต ภาสิเต ตุณ๎หีภาเว สัมปะชานะการี โหติ- ทำความรู้สึกตัว ในการก้าวไป หยุดอยู่ นั่งอยู่ การหลับ การตื่น การพูด การนิ่ง
   อิติ อัชฌัตตัง วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ- ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกาย ภายในบ้าง
  พะหิทธา วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ- พิจารณาเห็นกายในกาย ภายนอกบ้าง
  อัชฌัตตะพะหิทธา วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ- พิจารณาเห็นกายในกาย ทั้งภายในและภายนอกบ้าง
  สะมุทะยะธัมมานุปัสสี วา กายัส๎มิง วิหะระติ- พิจารณาเห็นธรรม คือความเกิดขึ้น ในกายบ้าง
   วะยะธัมมานุปัสสี วา กายัส๎มิง วิหะระติ- พิจารณาเห็นธรรม คือความเสื่อมไป ในกายบ้าง
  สะมุทะยะวะยะธัมมานุปัสสี วา กายัส๎มิง วิหะระติ- พิจารณาเห็นธรรม ทั้งความเกิดขึ้นและเสื่อมไป ในกายบ้าง
  อัตถิ กาโยติ วา ปะนัสสะ สะติ ปัจจุปัฏฐิตา โหติ- อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า กายมีอยู่
  ยาวะเทวะ ญาณะมัตตายะ ปะติสสะติมัตตายะ- เพียงสักว่ารู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น
  อะนิสสิโต จะ วิหะระติ- เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิอาศัยไม่ได้
  นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ- ไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก
  เอวัมปิ ภิกขะเว ภิกขุ กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ- ภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่
 |