|       เวทนานุปัสสนา  (นำ) หันทะ มะยัง เวทะนานุปัสสะนาปาฐัง ภะณามะ เส ฯ  (รับ) กะถัญจะ ภิกขะเว ภิกขุ เวทะนาสุ เวทะนานุปัสสี วิหะระติ- ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ เป็นอย่างไรเล่า ?
  อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ- ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
  สุขัง เวทะนัง เวทิยะมาโน- เมื่อเสวยสุขเวทนาอยู่
  สุขัง เวทะนัง เวทิยามีติ ปะชานาติ- ก็รู้ชัดว่า เราเสวยสุขเวทนาอยู่
  ทุกขัง เวทะนัง เวทิยะมาโน - เมื่อเสวยทุกขเวทนาอยู่
  ทุกขัง เวทะนัง เวทิยามีติ ปะชานาติ- ก็รู้ชัดว่า เราเสวยทุกขเวทนาอยู่
  อะทุกขะมะสุขัง เวทะนัง เวทิยะมาโน- เมื่อเสวยอทุกขมสุขเวทนาอยู่
  อะทุกขะมะสุขัง เวทะนัง เวทิยามีติ ปะชานาติ- ก็รู้ชัดว่า เราเสวยอทุกขมสุขเวทนาอยู่
  สามิสัง วา สุขัง เวทะนัง เวทิยะมาโน - เมื่อเสวยสุขเวทนา มีอามิสอยู่ (อามิส คือ กามคุณ ๕ มี รูป เป็นต้น)
  สามิสัง สุขัง เวทะนัง เวทิยามีติ ปะชานาติ- ก็รู้ชัดว่า เราเสวยสุขเวทนา มีอามิสอยู่
  นิรามิสัง วา สุขัง เวทะนัง เวทิยะมาโน- เมื่อเสวยสุขเวทนา ไม่มีอามิสอยู่
  นิรามิสัง สุขัง เวทะนัง เวทิยามีติ ปะชานาติ- ก็รู้ชัดว่า เราเสวยสุขเวทนา ไม่มีอามิสอยู่
  สามิสัง วา ทุกขัง เวทะนัง เวทิยะมาโน- เมื่อเสวยทุกขเวทนา มีอามิสอยู่
  สามิสัง ทุกขัง เวทะนัง เวทิยามีติ ปะชานาติ- ก็รู้ชัดว่า เราเสวยทุกขเวทนา มีอามิสอยู่
  นิรามิสัง วา ทุกขัง เวทะนัง เวทิยะมาโน- เมื่อเสวยทุกขเวทนา ไม่มีอามิสอยู่
  นิรามิสัง ทุกขัง เวทะนัง เวทิยามีติ ปะชานาติ- ก็รู้ชัดว่า เราเสวยทุกขเวทนา ไม่มีอามิสอยู่
  สามิสัง วา อะทุกขะมะสุขัง เวทะนัง เวทิยะมาโน- เมื่อเสวยอทุกขมสุขเวทนา มีอามิสอยู่
  สามิสัง อะทุกขะมะสุขัง เวทะนัง เวทิยามีติ ปะชานาติ- ก็รู้ชัดว่า เราเสวยอทุกขมสุขเวทนา มีอามิสอยู่
  นิรามิสัง วา อะทุกขะมะสุขัง เวทะนัง เวทิยะมาโน- เมื่อเสวยอทุกขมสุขเวทนา ไม่มีอามิสอยู่
  นิรามิสัง อะทุกขะมะสุขัง เวทะนัง เวทิยามีติ ปะชานาติ- ก็รู้ชัดว่า เราเสวยอทุกขมสุขเวทนา ไม่มีอามิสอยู่
   อิติ อัชฌัตตัง วา เวทะนาสุ เวทะนานุปัสสี วิหะระติ- ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา ภายในบ้าง
  พะหิทธา วา เวทะนาสุ เวทะนานุปัสสี วิหะระติ- พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา ภายนอกบ้าง
  อัชฌัตตะพะหิทธา วา เวทะนาสุ เวทะนานุปัสสี วิหะระติ- พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนา ทั้งภายในและภายนอกบ้าง
  สะมุทะยะธัมมานุปัสสี วา เวทะนาสุ วิหะระติ- พิจารณาเห็นธรรม คือความเกิดขึ้น ในเวทนาบ้าง
  วะยะธัมมานุปัสสี วา เวทะนาสุ วิหะระติ- พิจารณาเห็นธรรม คือความเสื่อมไป ในเวทนาบ้าง
  สะมุทะยะวะยะธัมมานุปัสสี วา เวทะนาสุ วิหะระติ- พิจารณาเห็นธรรม ทั้งความเกิดขึ้นและเสื่อมไป ในเวทนาบ้าง
  อัตถิ เวทะนาติ วา ปะนัสสะ สะติ ปัจจุปัฏฐิตา โหติ- อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า เวทนามีอยู่
  ยาวะเทวะ ญาณะมัตตายะ ปะติสสะติมัตตายะ- เพียงสักว่ารู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น
  อะนิสสิโต จะ วิหะระติ- เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิอาศัยไม่ได้
  นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ- ไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก
  เอวัง โข ภิกขะเว ภิกขุ เวทะนาสุ เวทะนานุปัสสี วิหะระติ - ภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นเวทนา ในเวทนาอยู่
 |