|     ธาตุมนสิการบรรพ  (นำ) หันทะ มะยัง ธาตุมะนะสิการะปัพพะปาฐัง ภะณามะ เส ฯ  (รับ) ปุนะ จะปะรัง ภิกขะเว ภิกขุ - ภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง
  อิมะเมวะ กายัง ยะถาฐิตัง ยะถาปะณิหิตัง - ภิกษุย่อมพิจารณากายนี้แล อันตั้งอยู่ ดำรงอยู่ตามปกติ
  ธาตุโส ปัจจะเวกขะติ- โดยความเป็นธาตุว่า
  อัตถิ อิมัส๎มิง กาเย - ในร่างกายนี้มี
  ปะฐะวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ - ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ดังนี้
   เสยยะถาปิ  ภิกขะเว ทักโข โคฆาตะโก วา โคฆาตะ-กันเตวาสี วา คาวิง วะธิต๎วา
 - ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนคนฆ่าโค หรือลูกมือของคนฆ่าโค ผู้ขยัน ฆ่าแม่โคแล้ว
  จาตุมมะหาปะเถ วิละโส ปะฏิวิภะชิต๎วา นิสินโน อัสสะ- แบ่งออกเป็นส่วนๆ นั่งอยู่ที่หนทางใหญ่สี่แพร่ง
  เอวะเมวะ โข ภิกขะเว ภิกขุ- ภิกษุทั้งหลาย ฉันใดก็ฉันนั้น
  อิมะเมวะ กายัง ยะถาฐิตัง ยะถาปะณิหิตัง ธาตุโส ปัจจะเวกขะติ- ภิกษุย่อมพิจารณากายนี้แล อันตั้งอยู่ ดำรงอยู่ตามปกติ โดยความเป็นธาตุว่า
  อัตถิ อิมัส๎มิง กาเย- มีอยู่ในกายนี้
  ปะฐะวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตูติ- ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ดังนี้
   อิติ อัชฌัตตัง วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ- ด้วยอาการอย่างนี้ ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกาย ภายในบ้าง
  พะหิทธา วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ- พิจารณาเห็นกายในกาย ภายนอกบ้าง
  อัชฌัตตะพะหิทธา วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ- พิจารณาเห็นกายในกาย ทั้งภายในและภายนอกบ้าง
  สะมุทะยะธัมมานุปัสสี วา กายัส๎มิง วิหะระติ- พิจารณาเห็นธรรม คือความเกิดขึ้น ในกายบ้าง
  วะยะธัมมานุปัสสี วา กายัส๎มิง วิหะระติ- พิจารณาเห็นธรรม คือความเสื่อมไป ในกายบ้าง
  สะมุทะยะวะยะธัมมานุปัสสี วา กายัส๎มิง วิหะระติ- พิจารณาเห็นธรรม ทั้งความเกิดขึ้นและเสื่อมไป ในกายบ้าง
  อัตถิ กาโยติ วา ปะนัสสะ สะติ ปัจจุปัฏฐิตา โหติ- อีกอย่างหนึ่ง สติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่า กายมีอยู่
  ยาวะเทวะ ญาณะมัตตายะ ปะติสสะติมัตตายะ- เพียงสักว่ารู้ เพียงสักว่าอาศัยระลึกเท่านั้น
  อะนิสสิโต จะ วิหะระติ- เธอเป็นผู้อันตัณหาและทิฏฐิอาศัยไม่ได้
  นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ- ไม่ถือมั่นอะไรๆ ในโลก
  เอวัมปิ ภิกขะเว ภิกขุ กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ- ภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกายอยู่
 |